ประเพณีให้ทานไฟ

ประเพณีให้ทานไฟ คือการทำบุญถวายอาหารเช้าแด่ภิกษุสงฆ์ในฤดูหนาว เพื่อให้พระภิกษุสงฆ์เกิดความอบอุ่นในระหว่างการฉันภัตตาหารด้วยวิธีก่อกองไฟแล้วปรุงอาหารและขนมถวายพระ

 

ในเช้าตรู่วันใดวันหนึ่งในฤดูหนาว  ชาวพุทธในละแวกวัดจะนัดหมายนำไม้ฟืนมาก่อกองไฟ และร่วมกันปรุงอาหารคาวหวานไปถวายพระสงฆ์สามเณร แล้วก่อกองไฟเอาไว้ นิมนต์พระสงฆ์มาฉันรอบกองไฟ  เพื่อให้เกิดความอบอุ่นขณะฉันอาหาร หลังจากนั้นแบ่งปันแก่ผู้เข้าร่วมพิธีไปรับประทานร่วมกัน พร้อมกับนำปัจจัยที่ได้ถวายวัดทั้งหมด เป็นการร่วมแรงร่วมใจและพลังศรัทธา เป็นวิถีชีวิตของพุทธศาสนิกชนอย่างแท้จริง เชื่อว่าได้บุญกุศลที่แรงกล้า

การให้ทานไฟไม่มีกำหนดระยะเวลาที่แน่นอนตายตัว แต่ขึ้นอยู่กับความพร้อมและความสะดวกของเจ้าภาพ แต่ส่วนใหญ่จะปฏิบัติในช่วงเดือนอ้าย – เดือนยี่ ซึ่งป็นช่วงที่มีอากาศเย็น ชาวพุทธแต่ละชุมชนจะนัดหมายไปพร้อมกันที่วัดในเวลาย่ำรุ่ง

พิธีกรรม
1. การก่อกองไฟ ชาวบ้านจะเตรียมไม้ฟืน ถ่าน หรือเตาไฟ สำหรับก่อให้เกิดความอบอุ่นแก่พระสงฆ์ นิยมใช้ไม้ฟืนหลายอันมาซ้อนกันเป็นเพิงก่อไฟ แล้วนิมนต์พระสงฆ์มานั่งผิงรอบกองไฟ
2.   การทำอาหารและขนมถวายพระ ส่วนใหญ่จะนิยมปรุงแบบง่าย ๆ และเสร็จในเวลาอันรวดเร็ว ส่วนขนมที่ปรุงมักเป็นขนมพื้นบ้าน เช่น ขนมเบื้อง ขนมครก ข้าวเกรียบปากหม้อ ขนมโค ขนมพิมพ์ ขนมจาก ขนมจู่จุน ในปัจจุบันมีขนมและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นอีกมากมาย เช่น น้ำชา กาแฟ หมี่ผัด ข้าวต้ม ข้าวหลาม ขนมปังปิ้ง ชาวบ้านจะปรุงขึ้นมาร้อน ๆ ไปถวายพระสงฆ์ ขณะที่ทำขนม พระสงฆ์ก็ฉันไปพร้อม ๆ กัน
3. เมื่อพระสงฆ์ฉันเสร็จแล้ว ชาวบ้านจึงร่วมกันรับประทานกันอย่างสนุกสนาน หลังจากนั้นพระสงฆ์ก็สวดให้ศีลให้พรแก่ผู้ที่มาร่วมพิธีเป็นอันเสร็จพิธี

ประเพณีให้ทานไฟ ชาวพุทธริเริ่มกันขึ้นเอง สืบเนื่องมาจากเหตุอุณหภูมิลดต่ำ  ชาวพุทธจึงคิดจะอุปัฏฐากภิกษุสามเณรให้ได้รับความอบอุ่นจากกองไฟ และให้ได้ฉันอาหารหวานคาวที่ปรุงขึ้นขณะยังร้อน ๆ โดยยึดเอาเรื่องราวอันมีมาใน “ขุททกนิกายชาดก” ซึ่งกล่าวถึงเศรษฐีโกสิยะผู้สมบูรณ์ด้วยโภคทรัพย์แต่มีความตระหนี่ถี่เหนียว  เมื่อได้รับฟังพระธรรมเทศนาของพระโมคคัลลานะมหาเถระจึงเกิดเลื่อมใสได้นำเอาขนมเบื้องไปทำถวายพระพุทธเจ้าและพระภิกษุสาวก จำนวน 500 รูป ณ พระเชตวันวิหาร

ในปัจจุบันนอกจากวัดต่าง ๆ ในจังหวัดแล้ว   ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมานี้  (ราว พ.ศ. 2540) ยังมีการจัดทำบุญให้ทานไฟในสถาบันการศึกษาด้วย การขยายประเพณีเข้าสู่สถานศึกษาสะท้อนถึงการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาแม้ในปัจจุบันเหลือวัดจำนวนน้อยมากที่จะจัดกิจกรรมประเพณีให้ทานไฟ แต่พุทธศาสนิกชนมุ่งมั่น ตั้งใจที่จะอนุรักษ์หรือสืบสานประเพณีการให้ทานไฟเอาไว้

Facebook Comments Box